11 บทเรียนชีวิตที่ได้จากการย้ายประเทศ ใช้ได้กับทุกสังคมและวัฒนธรรมทั่วโลก

Chonlicious
2 min readSep 22, 2022

--

ผจญภัยใน #สวีเดน #เยอรมัน #รัสเซีย และกว่าจะเป็น #3dartist

  1. คิดการใหญ่ต้องเงียบเข้าไว้ เก็บให้มิด จะได้ไม่เสียกำลังใจจากการคำพูดของคนอื่น อยากบอกทุกคนที่คิดจะย้ายประเทศว่า อย่าไปเล่าให้พ่อแม่พี่น้อง เพื่อนหรือใครก็ตามที่ไม่เห็นด้วยกับเราฟัง เขาไม่เคยไปเมืองนอก เขาก็กลัวและเป็นห่วงเป็นธรรมดา ไม่ก็หาว่าเราเพ้อฝัน
  • เราเอาเวลาที่เถียงไปหาลู่ทาง ฝึกฝนตัวเอง ทำงานสะสมเงินเก็บ จนสมัครงานแล้วได้วีซ่าดีกว่า ถึงวันนั้นเราจะไปใครก็ห้ามไม่อยู่ มีสำนวนรัสเซียว่าไว้ว่า “ยิ่งเงียบ ยิ่งไปได้ไกล”

2. คนเรารักกัน เราต้องรับรู้ได้ว่าเขารักเราโดยปราศจากข้อคลาแคลงใจ กับใครก็ตามถ้าไม่รู้สึกว่าถูกรัก ก็คือไม่รักนั่นแหละ

ความรักคือการกระทำ แม้ว่าเราไม่ได้ยินคำพูดของเขา แต่เราต้องรู้สึกได้ว่าเขารักเราด้วยการกระทำ และความรักต้องทำได้ทุกอย่าง ไม่มีระยะทาง รัสเซียก็ใกล้แค่ปากซอยบ้าน ไม่มีข้อแม้ ไม่มีแต่แม้แต่ข้อเดียว

คนที่รักเราต้องไม่ทำในสิ่งที่เราไม่ชอบและทำร้ายความรู้สึกเรา ถ้าเขารู้ปุ๊ปเขาจะต้องหยุดทำสิ่งนั้นทันที ขอโทษ และเปลี่ยนแปลงตัวเองเพื่อเราทันที ไม่ใช่มาพูดว่า”หวังดี” ทวงบุญคุณหรือสารพัดข้ออ้าง ความรักนั้นสั้นๆ และง่ายๆ คำเดียวรู้เรื่อง

คนเราหวังดีกันจริงจะระมัดระวังคำพูด เวลาเขาจะแสดงข้อโต้แย้ง คิดแล้วคิดอีก เตรียมแล้วเตรียมอีกว่าจะเข้าหาเราอย่างไร จะไม่มีวันพูดจาขวานผ่าซากถากถางความรู้สึกให้อีกฝ่ายเจ็บช้ำน้ำใจ

3. เพื่อนแท้ต้อง 100%

ต้องสบายใจ ต้องรู้สึกดีเย็นสบายเหมือนนั่งริมชายทะเล ต้องพูดได้ทุกอย่างไม่มีเซนเซอร์ ไม่มานั่งชิงดีชิงเด่นกัน ไม่บลัฟกันด้วยคำพูดถากถางแรงๆ ไม่มานั่งนินทากันลับหลังว่าไปทำศัลยกรรมมาแล้วไม่สวย หรือเราเป็นคนโง่ที่ตัดสินใจผิดพลาดในชีวิต เพื่อนอาจไม่สามารถช่วยเราได้ทุกเรื่อง แต่เขาจะไม่ทำให้เราระแคะระคายใจแม้แต่น้อยว่าเขาไม่สนใจ

เพื่อนเองก็ใช่ว่าจะหวังดีกับเราไปเสียทุกคน บางคนเขาก็คบเราเพื่อแก้เบื่อ ฆ่าเวลา คนแบบนี้นี่ตัวดี เวลาเราได้ดีแล้วมักจะรู้สึกจึ้ก พูดจาไม่ดีใส่ หรือแสดงความยินดีด้วยน้ำเสียงที่เย็นชา

เพื่อนที่ชอบพูดว่าหวังดีแต่ให้ฟีดแบ็คตลอดเวลา ไม่คนใจแคบเห็นคนอื่นทำต่างไม่ได้ก็คือคนขี้อิจฉาประเภทหนึ่ง นี่ไม่ใช่เพื่อน

และเพื่อนที่เมื่อเราได้ดีแล้วนิสัยเปลี่ยน หรือหายตัวไปนี่ไม่ใช่เพื่อน จะมีเรื่องดีหรือร้ายเพื่อนแท้ต้องไม่เปลี่ยนนิสัย

4. เลิกให้หมดนิสัยที่คอยจะพึ่งพาคนอื่น เป็นคนยอมคน และไม่รู้จักไว้ตัวและมีขอบเขต อันตรายมาก!

ถ้าเรามัวแต่กลัวเสียคนในชีวิตไป อยากจะเก็บทุกคนไว้เป็นคอนเนคชั่น ต้องการความช่วยเหลือจากคนอื่นอยู่เสมอ มองว่าตัวเองเป็นที่สองรองคนอื่น คอยแต่จะก้มหัวเรียนรู้จากผู้อื่นอยู่เสมอ เป็นผู้ให้ที่ไม่รู้จักเลือกผู้รับ และเป็นคนยอมคน ใจดีเฟรนด์ลี่กับทุกคน เราจะถูกโลกปู้ยี้ปู้ยำได้ง่าย

มันเป็นช่องโหว่จะนำพาคนประเภทสารพัดสิงสาราสัตว์เข้ามาในชีวิต ตั้งแต่คนที่อยากเข้ามาช่วยเหลือเรา แล้วต่อมาทำตัวเป็นเจ้าชีวิตของเรา ทวงหนี้บุญคุณบ้าง คนที่พูดจาถากถางเราเพราะเราอะไรก็ได้ คนที่หลอกพาเราไปเที่ยวเพื่อแอบแต๊ะอั๋งลวนลาม คนที่ดีแต่พูดไม่รักษาสัญญา ไปจนถึงคนที่ชอบข่มเหงเรา ฯลฯ

เราเจอแบบนี้มาเยอะมากในรอบกว่าสองปีที่อยู่ต่างประเทศ ทำให้ปวดหัว นอกจากเลิกคบแล้ว นิสัยขี้พึ่งพาของตัวเองก็ต้องเลิกให้หมด พึ่งตัวเองให้มากที่สุดเพื่อความสงบสุขและสบายใจของตัวเอง ขอความช่วยเหลือได้ แต่ก็ดูๆ หน่อยว่าคนๆ นั้นหวังดีกับเราจริงไหม

5. คนที่ขยัน เก่งและมีคุณธรรมตกน้ำไม่ไหล ตกไฟไม่ไหม้ ถึงบ้งก็บ้งแปปเดียว เดี๋ยวก็มีทางไป

ผลงานดีเข้าตากรรมการ นิสัยก็ดี คนแบบนี้ไปไหนๆ คนเขาก็เชื่อใจ เมตตาเอ็นดู มีแต่คนดีๆ เดินเข้ามาหาและหยิบยื่นโอกาสให้ ได้อยู่ในสังคมที่ดี ผู้คนให้ความเคารพ มองเห็นคุณค่าและมีหน้ามีตาทัดเทียมคนของเขา

แต่จะมีตรงนี้ได้เราต้องโฟกัสที่ตัวเองก่อน เริ่มจากตั้งใจสร้างผลงานด้วยสองมือของตัวเอง ทำตัวให้เป็นคนที่มีประโยชน์และจริงใจต่อผู้อื่น เมืองนอกมีผลงานแล้วคอนเนคชั่นจะตามมาเอง

6. อย่าไปคาดหวังว่าประเทศใหม่จะต้องให้ทุกอย่างแก่เรา ชดเชยสิ่งที่เราในไม่ได้รับในชีวิต ไม่มีหรอกประเทศที่ดีพร้อม ไม่ใช่ว่าย้ายไปแล้วทุกข์จะดับและจะสุขทันที มันแค่เปลี่ยนชุดของปัญหาที่เราต้องดีล

ส่วนตัวคิดว่าอยากให้ถูกใจทุกอย่างต้องมีหลายๆ พาสปอร์ต ทำงานที่ทำที่บ้านได้ บินไปบินมาตามแต่ที่ใจต้องการ แล้วแต่คน เราต้องหาให้เจอว่าไลฟ์สไตล์ไหนเหมาะกับเรา

ตักตวงสิ่งที่ดีที่สุดของประเทศนั้นๆ อยู่ที่ไหนก็ใช้สิทธิ์ ใช้โอกาสที่ประเทศนั้นๆ มีให้ดีที่สุด

7. อย่าคิดว่าเพราะตัวเองเป็นพลเมืองชั้นสองจึงต้องเป็นฝ่ายยอมเขา คนอื่นจะสัมผัสได้ว่าเราอ่อนแอกว่าเขา และหาเรื่องข่มเหงเราได้

รักตัวเองให้มากๆ คิดไว้เสมอเรามีชีวิตเพื่อได้รับสิ่งที่ดีและเหมาะสมกับเราที่สุด จงเรียกค่าแรงและสิทธิ์เทียบเท่าคนท้องถิ่นทุกประการ อย่าได้เขินอาย

เราเดินทางกว่าหมื่นกิโลเพื่อมาทำตามความฝัน มีญาติพี่น้อง เพื่อนๆ ที่ฝากความหวังไว้กับเรา เราคือโฉมหน้าของคนทุกคนที่รักและหวังดีกับเรา จงปกป้องและรักเกียรติของตัวเองให้สมกับที่เราเป็นที่รักและเคารพของคนรอบตัวในประเทศที่เราจากมา

8. คนอื่นจะคิดอย่างไรไม่ได้หมายความว่าเราจะเป็นอย่างที่เขาคิด มันเพียงพอแล้วแค่เรารู้ว่าตัวเราเป็นคนอย่างไร

ไม่ต้องไปแก้ไขใดๆ ใครเขาจะกล่าวหาว่าว่าเราเป็นคนไม่ดีอย่างไรอะไรมาก็ Yes, I am. กับ Thank you. ให้หมด แล้วเขาจะเลิกเถียง กลัวและเลิกยุ่งกับเราไปเอง

ให้คนเขากลัวดีกว่าให้เขาบดขยี้และข่มเหง อย่างหลังมันเจ็บใจกว่ามาก

รู้จักทันคน โต้ตอบให้เป็นเพื่อความสบายใจของเรา มีปัญหาแล้วเงียบ พยายามปล่อยผ่าน ไม่พูดถึง แต่สุดท้ายเก็บกลับมาบ้าน นอนยังไงก็นอนไม่หลับ

9. ในช่วงที่ดำดิ่งที่สุด ขอนึกถึงคำพูดของคนที่เห็นคุณค่าของเรา นึกถึงคำชมในอดีตที่เราเคยได้รับ ความสำเร็จที่ผ่านมา นึกถึงข้อดีของตัวเองอยู่เสมอ

มองไปข้างหลัง บางทีวิวสวยกว่าข้างหน้า แล้วจะรู้ว่าเรามาไกลแค่ไหน

10. คนที่อยากให้เราเสียใจเขาก็จงใจหาคำพูดมาเสียดแทงให้เราเสียเซลฟ์นั่นแหละ

คนดีๆ เขาไม่มานั่งทำลายความมั่นใจของคนอื่นกันหรอก คนเรากว่าจะโตมาได้ เขาต้องผ่านอะไรมามากมายกว่าเขาจะเข้มแข็งได้อย่างวันนี้

อย่าเป็นคนๆ นั้นที่คอยทำลายความภาคภูมิใจและตัวตนของคนอื่นที่เขาสั่งสมมาด้วยความยากลำบาก และเมื่อเรารู้ว่าเขาอยากให้เราเจ็บก็อย่าไปยืนเป็นเป้านิ่งให้เขาทิ่มแทงเรา

ถ้าไม่อยากเจอคนแบบนี้อีก ไม่ว่าจะเจออะไร อย่างน้อยที่สุดแกต้องเข้มแข็งด้วยตัวเองให้ได้ ไม่รอคอยอะไรจากใครทั้งสิ้น ให้กำลังใจตัวเองและคนอื่น คิดบวกเข้าไว้

พรุ่งนี้อาจไม่ดีกว่าวันนี้เสมอไป อาจจะแย่กว่าวันนี้อีกก็ได้ แต่ถ้าเรายังมีชีวิตอยู่และทำหน้าที่ของตัวเองให้ดีที่สุด มันต้องมีสักวันแหละที่ดี วันไหนก็วันนั้น วันนี้พอแล้วก็ดีที่สุดของมันแล้ว แล้วถามตัวเองว่าวันนี้เรายิ้มบ้างหรือยัง

11. ที่ๆ ผิดสำหรับเราคือที่ๆ อะไรๆ ก็ไม่เวิร์ค หางานยาก ได้งานมาแปปๆ ก็มีเหตุให้ย้ายงาน มีเรื่องให้ทะเลาะกับคนอื่นอยู่เสมอ หาความสุขสบายใจไม่ได้เลย ถ้าเจอแบบนี้ก็ต้องย้ายที่ย้ายทางบางทีบุคลิกหรือโชคชะตาเราแค่ไม่เหมาะกับที่ๆ นั้น (incompatibility) มันเกิดขึ้นได้นะ

ไม่ต้องไปคร่ำครวญกับมัน อย่าไปเก็บมันมาคิด (internalise) ว่าตัวเองแย่ เป็นคนไม่ได้เรื่องที่ปรับตัวไม่ได้ ปรับๆ ไปเท่าที่ไหว และระหว่างนั้นก็หาที่ใหม่

แรกๆ เปลี่ยนที่เปลี่ยนทางก็ชอบหมดแหละ แต่พออยู่ไปอยู่มาเราโตขึ้น ตัวใหญ่คับที่ก็ถึงเวลาที่ต้องเปลี่ยนบ่อใหม่ เราเรียนรู้ไวเลยโตไวไง

— — — — — — — — — — — — — — — — — — — — — — — — — — — — — — — — — — — — — —

มันเป็นการเดินทางของชีวิต บางทีนะไม่มีที่ไหนบนโลกหรอกที่จะถูกใจเราไปตลอดทุกช่วงวัย วัยนี้ชอบประเทศนี้ เพื่อนกลุ่มนี้ โตขึ้นก็ชอบอีกประเทศนึง เพื่อนอีกแบบนึง การที่เราขัดแย้งกับสิ่งรอบตัวเป็นสัญญาณว่าเราต้องออกเดินทางไปยังที่ใหม่

ขอบคุณทุกคนและทุกอุปสรรคที่เข้ามาเติมเต็มให้เราได้เรียนรู้และเติบโต แต่ยิ่งกว่านั้นให้ขอบคุณตัวเองให้มากที่สุดที่อดทนผ่านมันมาได้ ให้เครดิตตัวเองเยอะๆ หน่อย เขียนคำพูดดีๆ ใส่สมุดบันทึกชมตัวเองบ้าง

ยอมรับการเปลี่ยนแปลง มองไปข้างหน้า และมึความสุขกับการลงมือทำตามความฝันก็พอแล้ว

ฝันจะมาถึงเมื่อไหร่ก็เมื่อนั้น เรื่องของฝัน ไม่เกี่ยวกับเรา แต่วันนี้ฉันมีความสุขล้นอก เพราะฉันได้ทำเต็มที่แล้ว

ตายได้โดยไม่มีอะไรติดค้างทั้งสิ้น

— — — — — — — — — — — — — — — — — — — — — — — — — — — — — — — — — — — — — —

ใครสายอาร์ตติสต์ อยากได้กำลังใจดี และหาอะไรอ่านเป็นภาษาอังกฤษมากขึ้น ตามไปสนุกกันต่อได้ที่ ig @chonlicious

ปล. เรียนจบแอนิเมชั่นที่สวีเดนที่ #hyperisland ตอนนี้ฝึกงานเป็น #3dartist ที่เบอร์ลิน ได้เงินค่าฝึกงานด้วย แต่ไปฝึกได้ 2 เดือนครึ่งแล้วเงินเก็บหมดเลยต้องกลับมานั่งฝึกงานต่อที่บ้านที่กรุงเทพฯ

ทำพอร์ตอยู่ เดี๋ยวพอร์ตเสร็จจะกลับไปใหม่ : ) กลับแน่นอนนนน ขอเวลาแป๊ปนึงงง

ปล2. มีผ.ได้แค่วีซ่าเข้าประเทศ อยากมีงานต้องมี hard skill

ปล4. ยุโรปทำเราเยินมาก 27 เองแต่เจอผมหงอกเส้นแรกแล้ว

ปล3. เป็นนางแบบให้เพื่อนที่สต็อกโฮล์ม ภาพจาก ig @yana.belevich เพื่อนคนนี้เป็นช่างภาพและถ่ายรูปสวยมากก

--

--